วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

การลงทุนระยะสั้นและยาวในอสังหาริมทรัพย์


ในเรื่องของการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นธุรกิจที่ลงทุนมีผลตอบแทนที่สูงอีกวงการเลยก็ว่าได้แต่ทั้งนี้การลงทุนต้องมีการลงทรัพย์สินจำนวนมากเช่นกันและก็มีความเสี่ยงสูงอีกด้วยซึ่งโดยทั่วไปการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นทำได้หลายวิธีวันนี้เราก็จะมาดูว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นมีแบบไหนกันบ้างและแต่ละแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร

การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ระยะสั้นการลงทุนแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นเหมือนวิธีการเก็งกำไร เช่น เมื่อเราเห็นว่ามีโครงการขายบ้านหรือขายคอนโดใหม่ในทำเลที่ดีหรือสามารถขายได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว  เราก็ไปจับจองเป็นเจ้าของไว้ก่อนแล้วเมื่อโครงการนั้นเสร็จเราอาจจะนำมาปล่อยให้เช่าหรือว่าจะขายเพื่อเก็งกำไรต่อไป

การลงทุนหรือการเก็งกำไรระยะสั้นแบบนี้จะใช้เงินลงทุนที่ น้อยกว่าระยะยาวด้วยแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูว่าเศรษฐกิจในขณะนั้นเป็นอย่างไรการจับจ่ายใช้สอยหรือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนั้นเป็นขาลงหรือขาขึ้นก็ต้องดูให้ดีปัจจัยที่สำคัญที่เราจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบบนี้คือให้เราดูทำเลที่เราจะซื้อให้ดีที่สุดว่าย่านนั้นๆมีความต้องการสูงและสามารถทำมาค้าขายได้ง่าย


เราสามารถขายหมดได้ไว้ภายใน 1 ปีหรือให้เราดูจากยอดจองเป็นหลักถ้ามีอัตราการจองหมดไว้นั่นก็หมายถึงว่าโครงการนั้นเป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก  และถ้าเราจะเก็งกำไรระยะสั้นอย่างนี้ก็ต้องดูด้วยว่าค่าจองกับค่าดาวน์นั้นสูงหรือน้อยเพียงใด

ซึ่งจะต้องไม่เกิน 5 ถึง 10% เพราะจะทำให้การลงทุนนั้นไม่เสียเงินเกินไปและถ้าเป็นไปได้การขายคนขายในช่วงขาขึ้นเพราะเศรษฐกิจในขณะนั้นดีก็จะทำให้มีกำลังซื้อและราคาที่เราขายนั้นได้สูงมากกว่าปกตินั่นเอง

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวการลงทุนในแบบนี้จะต้องดูปัจจัยในหลายหลายแบบเช่นอัตราเงินเฟ้อเป็นต้น  การลงทุนแบบนี้ก็จะออกเป็น 2 แบบหลักๆ  การลงทุนกินกำไรจากการขายสินทรัพย์  ในการทำกำไรอย่างนี้ต้องดูแนวโน้มว่าที่ดินหรือการใช้สอยจากที่ดินนั้นๆมีประโยชน์และมีผู้สนใจมากน้อยเพียงใด

เช่น ที่ดินติดริมถนน ก็จะมีการสัญจรไปมา ก็จะสามารถทำมาค้าขายได้ง่ายกว่าที่ดินที่อยู่ในซอยลึกๆและสภาพราคาและจริงสิ่งก่อสร้างนั้นเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจในกรณีที่เราจะขายสินทรัพย์ สถานที่ที่เราจะเอาสามารถทำกำไรได้อีกนั่นก็คือเอาไว้ปล่อยเช่าเพื่อทำกำไรสถานที่อย่างนี้ข้อได้เปรียบหลักๆก็จะมีสถานที่นั้นจะต้องอยู่ใกล้สถานที่ราชการหรือห้างร้านต่างๆก็จะทำให้ได้เปรียบมากกว่าและการเดินทางนั้นควรจะสะดวกมีรถไฟฟ้าใต้ดินหรือระบบการขนส่งมวลชนที่ดีเป็นต้นก็จะสามารถทำให้สินทรัพย์นั้นเพิ่มมูลค่าขึ้นได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น