วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สุดยอดการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เพิ่มคุณค่า

วันนี้เราจะมาดูเคล็ดลับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ว่ามีเทคนิคการลงทุนนั้นให้ทวีมูลค่าให้ได้ดีอย่างไรแล้วมีเทคนิคอย่างไรกันบ้างนะครับ  ก่อนอื่นเลยเราคงจะรู้ว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่ยากแล้วก็ไม่ง่ายเกินไปทั้งนี้เราจะต้องมีข้อมูลวิเคราะห์ประกอบกันหลายหลายเรื่องเพื่อที่จะทำให้การลงทุนนั้นมีกำไรและเพิ่มคุณค่าของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น

ให้เราเลือกซื้อสินทรัพย์ที่มีทำเลที่ดีเพราะฉะนั้นก็ควรจะใกล้แหล่งชุมชนหรือทีทำงานองคนส่วนใหญ่เป็นล่ะเพราะว่าทำเลเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามีอิทธิพลในการซื้อขายมากกว่าทำเลอื่นๆที่ไม่ดีเพราะฉะนั้นการที่เราเลือกทำเลของอสังหาริมทรัพย์จะทำให้ขายคล่องขายง่ายมีเช้ามาเช่าสถานที่ของเราได้เร็วและสามารถเช้าในระยะยาวมากกว่าทำเลอื่นๆ



ให้เราเลือกสถานที่ที่สามารถดึงดูดทั้งนี้การที่เราเลือกสถานที่ที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีและสะดวกต่อการเดินเข้าออกและปลอดภัยจากมิจฉาชีพทั้งหลายรวมทั้งมีความหมายของสถานที่ไม่กล่าวถึงเกินไปด้วยการบำรุงรักษาที่ดีของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็จะทำให้ผู้เช่านั้นเช้าสถานที่ของเราได้ง่ายและเป็นระยะยาวมากขึ้นก็เป็นได้

ให้เราซื้ออสังหาริมทรัพย์มือสองแล้วหลังจากนั้นก็ให้ปล่อยเช่าในทันทีเช่นถ้าสถานที่นั้นมีผู้เช่าเดิมอยู่แล้วให้เราซื้ออสังหาริมทรัพย์หลังนั้นเป็นเจ้าของต่อแล้วก็ให้สัญญาเช่ากับผู้เช่ารายปัจจุบันในทันทีเราก็จะไม่ต้องไปวุ่นวายหาผู้เช่าใหม่ๆอีกด้วย

ให้เราเซ็นสัญญากับผู้เช่ารายปัจจุบันของเราบ่อยขึ้นเพราะว่าถ้าเราเซ็นต์สัญญาระยะยาวเกินไปก็จะทำให้เราไม่สามารถขึ้นอัตราค่าเช่าได้แต่ถ้าเซ็นสัญญากันบ่อยก็จะสามารถตอบค่าเช่าขึ้นได้เนื่องจากทำเลนั้นมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นซึ่งทางผู้เช่าก็เข้าใจดีทั้งนี้เราจะต้องประเมินสถานการณ์และความสำคัญของผู้เช่ารายนั้นด้วยไม่เพียงแต่ในเรื่องราคาเพียงอย่างเดียว

แต่งบ้านสไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ

เคยสังเกตเพื่อนหลายคนที่เป็นกลุ่มของเรามั้ยครับว่าบ้านของแต่ละคนก็มีลักษณะดีไซน์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการตกแต่งบ้านของแต่ละคนนั้นก็สามารถที่จะบ่งบอกสไตล์ของแต่ละคนได้

ซึ่งความชอบพของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน  เช่น บางคนชอบแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น  หรือสไตล์คลาสสิค  วินเทจ เป็นต้น  ซึ่งแต่ละสไตล์ก็มีลักษณะโดดเด่นที่แตกต่างกัน

เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้สไตล์บ้านที่โดนใจแล้วก็ควรจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านให้เค้ากันด้วย  ซึ่งลักษณะบ้านแต่ละแบบนั้นมีสไตล์ที่แตกต่างกันไป  ใครที่อยากตกแต่งบ้านแต่ยังไม่มีไอเดียผมก็ได้นำลักษณะรูปแบบบ้านในแบบต่างๆมาบอกกันครับเผื่อจะได้ไอเดียไปเป็นแนวทางบ้างไม่มากก็น้อย

ลักษณะบ้านแรกก็คือบ้านแบบโมเดิร์น  ลักษณะบ้านแบบนี้จะเป็นลักษณะที่ทันสมัยเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่แต่อาจจะเชยได้ในอนาคตเพราะว่าบ้านลักษณะนี้จะเปลี่ยนไปตามสมัยนั่นเอง  

บ้านลักษณะมินิมอล บ้านสไตล์นี้จะเป็นลักษณะสไตล์เรียบง่าย  ซึ่งรายละเอียดในบ้านนั้นจะลดลงเหลือแต่เพียงลายเส้นตรงไปตรงมาและใช้สีน้อยเน้นรูปทรงเลขาคณิตเป็นต้น

  
บ้านสไตล์คลาสสิก บ้านแบบนี้ก็จะเป็นบ้านในแนวเศรษฐีที่ชอบตกแต่งกันเพราะจะเน้นความอลังการคลาสสิคโดยจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ทีสามารถวางเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านชิ้นใหญ่หรูหราดูดีมีฐานะ    

บ้านสไตล์วินเทจ ก็จะมาแรงในยุคปัจจุบันคือจะเน้นความคลาสสิคและทันสมัยเข้าร่วมการเฟอร์นิเจอร์นั้นก็จะเป็นแนวมือสองออกแนวเก่านิดนึง  แต่ก็สามารถเข้ามาทำให้ใหม่ได้และเน้นวัสดุที่เป็นธรรมชาติดูแล้วสบายตาไม่ร้อนแรงจนเกินไป

บ้านแนวเรโทร  แนวนี้จะเป็นแนวที่ฮิตมากในตอนสี่ถึงห้าปีก่อน เพราะจะเน้นสไตล์ยุค 60  70 รูปทรงบ้านนั้นจะเน้นแนววัฒนธรรมต่างๆ สีสันจะเป็นแนวฉูดฉาดและมีลายเส้นที่เป็นกราฟิกรูปทรงก็จะโค้งมน  แต่ก็คงความนุ่มนวลของบ้านแนวโมเดิร์นเหมือนเดิม

นี้ก็จะเป็นลักษณะบานแบบต่างๆซึ่งถ้าเราชอบหรือตรงกับไลฟ์สไตล์ตรงไหนก็สามารถนำเอาไปปรับใช้ร่วมกันได้ที่สำคัญการตกแต่งบ้านไม่ว่าจะเป็นสไตล์ไหนนั้นเน้นให้อยู่แล้วสบายใจก็ถือว่าผ่านนะครับ

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รูปแบบกลโกงต่างๆในการซื้อขายที่ดิน


เรียกได้ว่าการซื้อขายที่ดินในปัจจุบันนี้ถ้าเป็นธุรกรรมที่มีความสำคัญและมีขึ้นในทุกๆวันรวมทั้งมูลค่าของทรัพย์สินนั้นมีมูลค่าสูงมากไปจนถึงหลักแสนหลักล้านบาทด้วยมูลค่าที่สูงมากอย่างนี้จึงเป็นสาเหตุให้มิจฉาชีพมีวิธีการและกลลวงต่างๆที่ไม่หวังดีเข้ามาหาประโยชน์กับเราและทุจริตหลอกลวงในรูปแบบต่างๆวันนี้เราจึงรวบรวมกลโกงต่างๆที่เรามิจฉาชีพได้ทุจริตในการซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ทำให้เราได้มีความรู้เท่าทันกลโกงเหล่านี้กันครับ

คลโกงเหล่านั้นคือผิดสัญญา ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ให้กันไว้ซึ่งการซื้อที่ดินนั้นผู้ซื้อจะระบุเป็นสัญญาเช่าซื้อแต่ในความเป็นจริงการที่เราจะซื้อขายสัญญาเช่ากับสัญญาจะซื้อขายนั้น มีความแตกต่างกันซึ่งจะเป็นในกรณีที่ผู้ซื้อตกลงกับผู้ขายว่าจะซื้อบ้านพร้อมที่ดินแต่ในสัญญากับบอกว่าที่ดินเพียงอย่างเดียวเผื่อหลีกเลี่ยงภาษีเป็นต้นและในบางรายนั้นมีการทุจริตที่ไม่ยอมออกจากบ้านด้วยก็มีเช่นกัน


อีกวิธีก็คือการสับเปลี่ยนเอกสารสิทธิ์ในกรณีนี้การที่เราไม่เป็นผู้สนิทกันหรือบุคคลที่ไม่สนิทมาขอดูโฉนดที่ดินก็อาจจะนำโฉนดปลอมมาแลกเปลี่ยนกันได้โดยมีลักษณะท่าทีว่าขอยืมโฉนดเจ้าของที่ดินไปดูก่อนหรือช่วยหาผู้ซื้อให้หรือแม่กระทั่งนำโฉนดไปตัวที่สำนักงานที่ดินว่าเป็นของจริงหรือไม่ทั้งนี้ได้มีกลโกงเหล่านี้ปลอมโฉนดแล้วนำมาแลกเปลี่ยนกลับคืนทำให้เรามองไม่ออกถ้าเป็นมืออาชีพจึงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นหรือถ้าเรารู้เท่าทันก็ควรรีบแจ้งความก่อน    

และอีกวิธีก็คือในกรณีที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นขายที่ดิน 2 ครั้งเกิดจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นรับเงินมาแค่บางส่วน  ตกลงกับผู้รับที่ดินว่าจะโอนเงินกันในภายหลัง  ซึ่งผู้ถือกรรมสิทธิ์เดิมนั้นนำโฉนดไปจดทะเบียนให้แก่ผู้อื่นวิธีนี้จะเป็นคนโกงอีกรูปแบบนึง  ทั้งนี้วิธีป้องกันการโกงการซื้อขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆนั้นเรา ก็ไม่ควรมอบโฉนดที่ดินหรือบัตรประชาชนไปให้ใคร เพราะอาจจะถูกปลอมลายเซ็นได้และควรเก็บโฉนดที่ดินไว้ให้ดีที่สุด  หรือในกรณีที่เอกสารหรือโฉนดที่ดินหายนั้นควรรีบแจ้งต่อตำรวจโดยเร็ว เพื่อที่มิจฉาชีพไม่สามารถนำไปทำธุรกรรมต่างๆได้

เทคนิคการจัดห้องในบ้านให้น่าอยู่

สำหรับคนในปัจจุบันการอยู่ที่บ้านก็จะเป็นทางเลือกที่ดีในการพักผ่อน  เพราะการออกไปข้างนอกหรือท่องเที่ยวที่ไหนซักแห่งก็ดูเหมือนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายตลอดเวลา  การจัดแต่งหรือการตกแต่งที่อยู่ของเราก็เป็นปัจจัยสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราอยู่ได้อย่างมีความสุข

วันนี้ผมก็จะมาแนะนำในเรื่องของการจัดห้องหรือบ้านให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นลองมาดูกันครับว่าจะมีวิธีไหนบ้าง

 1. ให้เราตกแต่งห้องให้เรียบง่ายที่สุดซึ่งก็หมายถึงว่า ให้เราหลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ให้เราใช้เฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบการใช้งานที่จำเป็นเท่านั้น เช่น โต๊ะอาหารนั้น ก็สามารถใช้เป็นตัวที่ใช้ทำงานได้ด้วยเช่นกัน ก็จะประหยัดพื้นที่ไปพอสมควรทำให้เรามีพื้นที่ใช้งานมากยิ่งขึ้น


2. ให้ใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวหรือติดตั้งง่าย  เพราะว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้สามารถพับเก็บหรือเปลี่ยนตำแหน่งหรือย้ายไปวางในอีกที่สะสะดวกมากยิ่งขึ้น  และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้อีกด้วยอีกทั้งถ้าต้องการให้ขนาดห้องเพิ่มขึ้นเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ก็จะสามารถช่วยได้เช่นกัน  เช่น พับเก็บได้เลย โดยที่ไม่ต้องนำไปไว้มุมใดมุมนึงของห้องอีกต่อไป


3. สวนหย่อม เติมแต่งโดย ต้นไม้  การที่เราสร้างสวนหย่อมหรือว่าสร้างมุมสีเขียวให้บ้านนั้น  ก็จะสามารถเพิ่มความร่มรื่นและการอยู่อาศัยที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น  เพราะว่าการที่เราอยู่ในตึกสูงนั้น  ก็จะเห็นตึกรอบข้างที่เป็นตึกเช่นกัน  ก็จะทำให้หดหู่คิดงานไม่ออก เป็นต้นการที่เราทำระเบียงโดยการปลูกต้นไม้หรือมีพื้นหญ้า โต๊ะนั่งเล่นหรือแม้กระทั่งแจกันดอกไม้ ก็จะทำให้บรรยากาศในห้องนั้นดูสดใสเป็นธรรมชาติด้วยครับ

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สำรวจก่อนเข้าตลาดหุ้นด้านอสังหาฯ

สำหรับตลาดหุ้นเรียกได้ว่าเป็นแหล่งลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งเราเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็มักจะแสวงหาผลกำไรจากตลาดหุ้นได้ด้วยเหมือนกัน  เพราะว่าการร่วมลงทุนในตลาดหุ้นที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์นั้นจะมีผลตอบแทนในระยะยาวค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน และการลงทุนในหุ้นนั้นก็มีข้อดีอยู่หลายประการ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทที่เราด้วยนะครับ

คนที่เป็นมือใหม่บางครั้งก็อยากรวยเร็วรวยลัด ก็อาจจะทำให้ลงทุนพลาดได้ เพราะในตลาดหุ้นนั้นก็ใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสวยงามเสมอไป  อีกทั้งยังต้องมีจิตวิทยาในการเล่นหุ้นแต่ละตัวอีกด้วย  เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะลงทุนในตลาดหุ้นเราก็ควรศึกษาหาความรู้เพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดกันให้มากที่สุด
วันนี้เราก็จะมาให้ความรู้ในเรื่องการลงทุนว่าแบบไหนเหมาะสมกับเรามากที่สุด   ในเรื่องของการลงทุนในตลาดหุ้นปัจจัยที่สำคัญนั้นจะมีดังนี้คือในเรื่องของจิตใจถ้าเราใจร้อนหรือใจเย็น สองปัจจัยนี้จะมากำหนดว่าเราควรลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวมากกว่ากัน เป็นสิ่งที่เราต้องทราบก่อนการลงทุน  และจุดประสงค์การลงทุนในตลาดคุณนั้นเราก็ต้องทราบว่าเราต้องการเก็งกำไรในระยะสั้นและระยะยาวมากกว่ากันด้วย  



รวมทั้งผลตอบแทนแต่ละปีเราควรจะได้หรืออยากได้ประมาณเท่าไหร่ก็ต้องประเมิณด้วยเช่นกัน  เพราะฉะนั้นปัจจัยเหล่านี้ก็จะส่งผลทั้งสิ้น ทั้งผลตอบแทนในการลงทุนและความเสี่ยงที่จะผันผวนในพอร์ทของเราได้ด้วยเช่นกัน  เมื่อเราทราบความต้องการของเราจากนั้นค่อยกำหนดวิธีการหรือกลยุทธ์หรือเครื่องมือในการทำให้วัตถุประสงค์ของเรานั้นประสบความสำเร็จ

การลงทุนในตลาดหุ้นด้านอสังหาริมทรัพย์นั้นหลักๆจะมีอยู่ 2 วิธี  วิธีแรกคือการเน้นคุณค่าหรือในรูปแบบที่เรียกว่า VI ซึ่งการลงทุนแบบนี้ก็เปรียบเสมือนการซื้อหุ้นเข้าซื้อกิจการนั่นเอง  เพราะเราจะต้องติดตามผลการดำเนินงานหรือการบริหารงานของบริษัทเหล่านั้นว่ามีประสิทธิภาพและมั่นคงแค่ไหน   รวมทั้งวิเคราะห์งบการเงินกำไรต่างๆให้เป็น  เพื่อดูแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในระยะยาวมากกว่าระยะสั้นการลงทุนชนิดนี้ก็จะสามารถตอบแทนผลกำไรในอนาคตระยะยาวให้เรามั่นคงและยั่งยืน    

อีกวิธีนั้นเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนโดยใช้เครื่องมือคณิตศาสตร์ต่างๆ  ประกอบกับวิธีใช้เครื่องมือเป็นหลัก บวกกับการบริหารเงินในพอร์ต  การลงทุน  และจิตวิทยาการลงทุน   รวมเข้ากับเครื่องมือที่เราใช้  เพราะฉะนั้นถ้าใครทราบแล้วว่าตัวเองถนัดวิธีไหนอย่างไรก็ควรจะหาวิธีการที่ตรงกับความต้องการของตัวเองให้มากที่สุด

เคล็ดลับ! การลบคราบดินสอสีออกจากผนังบ้าน

การอยู่ในบ้านเป็นครอบครัวเคยใช่ไหมครับว่าบางทีเด็กๆหรือแม้กระทั่งลูกๆที่ซุกซน เอาดินสอสีหรือดินน้ำมันไปวาดตามผนังบ้านก็จะทำให้เราลบดินสอนั้นได้ยาก และไม่ออกเลยด้วยซ้ำไป วันนี้เราเอาวิธีแก้ปัญหาในการลบคราบดินสอสีหรือดินน้ำมันต่างๆมาฝากกันครับ



1. ใช้ไดร์เป่าผมหรือน้ำยาล้างจาน
การใช้น้ำยาล้างจานหรือไดร์เป่าผมนั้นสามารถหาได้ง่ายๆในบ้านของเรา ซึ่งคุณสามารถนำความร้อนจากไดร์เป่าผมนั้นมาเป่าครับ  ดินสอสีที่อยู่บนผนังแล้วให้นำน้ำยาล้างจานมาเช็ดรอยเปื้อนเหล่านั้น แค่นี้เองดินสอสีที่เปื้อนผนังอยู่ในบ้านของเราก็จะหายไปอย่างหมดจด

2. แปรงสีฟัน
ขัดและขัดสำหรับแปรงสีฟัน วิธีนี้ออกจะง่ายนะครับเพราะเราสามารถใช้แปรงสีฟันนั้นไปจุ่มน้ำและนำแปรงสีฟันมาขัดคราบดินสอบนผนังในบ้านเบาๆก็จะทำให้คราบดินสอเหล่านั้นออกได้อย่างง่ายดาย แต่อาจจะต้องใช้เวลาขัดเบาๆสักนิดหนึ่ง

3. ยางลบดินสอ
ยางลบดินสอนั้นใช้ได้ผลดีทีเดียว วิธีนี้เชื่อว่าหลายคนก็คือใช้มาแล้ว แต่เราต้องใช้ยางลบดินสอที่มีคุณภาพดีนิดหนึ่ง เพราะถ้าเราใช้ยางลบดินสอซึ่งมีคุณภาพต่ำจะทำให้สีนั้นเปื้อนผนังในบ้านของเรามากขึ้น วิธีง่ายๆก็คือใช้ยางลบดินสอลบเหมือนกับลบในกระดาษ ก็จะทำให้คราบดินสอเหล่านั้นจางและหายไปครับ

4. น้ำส้มสายชู
สารพัดประโยชน์สำหรบน้ำส้มสายชู วิธีนี้สามารถนำน้ำส้มสายชูและแปรงสีฟันมาใช้ร่วมกันโดยการหยดน้ำส้มสายชูลงบนแปรงสีฟัน แล้วก็นำมาขัดรอยเปื้อนในผนังบ้านเรื่อยๆและนำน้ำเปล่ามาล้างตาม ก็จะทำให้คราบเหล่านั้นจางและหายไปได้ครับ

5. เบบี้ออยล์
น้ำมันบำรุงผิวนี่แหละครับที่สามารถทำความสะอาดผนังของบ้านคงคุณได้อย่างง่ายโดยนำผ้ามาชุบน้ำมันเบบี้ออยล์แล้วนำไปขัดคราบบนผนังในบ้านของคุณก็จะทำให้ครับเหล่านั้นหลุดลอกออกไปและสะอาดมากขึ้นครับ

วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การตกแต่งห้องนอนในบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

โดยปรกติแล้ว เรามักจะมีตำแหน่งหรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านในตำแหน่งที่เหมาะสมอยู่แล้ว ทั้งนี้ตามหลักฮวงจุ้ย ถ้าวางผิดก็อาจจะกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตอยู่ภายในบ้านได้  การจัดเฟอร์นิเจอร์หรือตกแต่งห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยจีนก็จะทำให้ร่างกายของเราหรือบรรยากาศภายในบ้านของเรามีความน่าอยู่ และมีความร่มรื่น แถมยังมีสมาธิในการทำงานได้อีกด้วยวันนี้เรามาดูกันครับว่าการตกแต่งห้องนอนในบ้านตามหลักฮวงจุ้ยนั้นมีอย่างไรบ้าง

1. ให้เราหลีกเลี่ยงการวางพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ปลายเตียงทุกๆคนก็พอทราบกันอยู่แล้วว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ควรวางไว้ในที่สูงหรือวางไว้บนศีรษะของเรามากกว่าวิธีนี้จะเป็นการเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยครับ

2. การจัดวางเตียงนอนสำหรับฮวงจุ้ยไม่ควรวางเตียงไว้ใต้บันไดหรือไว้ใต้คานของบ้าน เพราะว่าเมื่อมีเสียงรบกวนหรือผู้คนเดินผ่านก็จะทำให้นอนหลับไม่สนิท และจะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้เนื่องจากมีฝุ่นหล่นลงมาได้อีกด้วย นี่ก็เป็นหลักฮวงจุ้ยอีกข้อนึง ในการจัดเตียงนอน

3. ไม่ควรตั้งเตียงนอนให้ตรงกับประตูหรือที่มีช่องรับอากาศเพราะจะส่งผลต่อการพักผ่อนโดยตรง ยิ่งคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ก็จะทำให้มีลมพัดผ่านอยู่ที่เตียงตลอด พลังของลมในหลักฮวงจุ้ยนี้ จะไปกระทบเต็มๆ ต่อผู้นอนบนเตียงจึงทำให้สุขภาพไม่ดีได้ครับ

4. การวางเตียงนอนในบ้านนั้นควรวางในแนวทิษเหนือหรือทิศใต้เพราะว่าในหลักฮวงจุ้ยเชื่อกันว่าแรงโน้มถ่วงของโลกนั้นทำให้เลือดภายในตัวของเราไหลเวียนได้ดีกว่า การวางเตียงนอนไปในทิศอื่นๆและยังส่งผลให้การนอนหลับนั้นหลับได้ง่ายสบายมากยิ่งขึ้น

5. ให้เราหลีกเลี่ยงการนำสิ่งของหรือกันแขวนโคมไฟต่างๆไว้ที่หัวเตียงนอน เนื่องจากตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อกันแล้วว่าถ้าเรานำสิ่งของหรือสิ่งใดมาแขวนไว้บนหัวเตียงมากๆก็จะส่งผลต่อผู้นอน  และทำให้ล้มป่วยหรือสุขภาพไม่ดีได้ง่ายกว่าเอาสิ่งของเหล่านั้นไปวางไว้ในตำแหน่งอื่นๆ  นี่ก็เป็นหลักฮวงจุ้ยง่ายๆ ที่นำไปตกแต่งห้องนอนภายในบ้านกันได้นะครับ


วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ลงทุนอสังหาริมทรัพย์คือทางเลือกที่น่าสนใจจริงหรือ?

คุณรู้หรือไม่? บ้านนอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยของใครหลายๆคนแล้ว บ้านยังเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะสมแก่การลงทุนอีกด้วย เพราะหากเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นแล้ว การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก แถมยังให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความเสี่ยงต่ำอีกด้วย

การที่คนเราจะซื้อบ้านสักหลัง มักมองเป็นเรื่องที่สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะราคาบ้านหลังหนึ่งไม่ใช้ถูกๆ ราคาเป็นแสนเป็นล้าน แต่เงินเดือนของเราเดือนๆหนึ่งหลักพันหลักหมื่น จะเอาเงินจากไหนไปซื้อ ไหนต้องมีเงินออมที่จะเอาไปดาวน์อีก สุดท้ายต้องพึ่งสถาบันการเงินที่เราต้องวิ่งเข้าหาเอง
เมื่อมีสถาบันการเงินให้กู้เงินและคุณได้บ้านสมใจแล้ว มันยังไม่จบแค่นั้น คุณต้องมีหน้าที่ผ่อนชำระเงินกู้รายเดือนอีก กว่าจะใช้หมดก็ปาไปเป็นสิบๆปี สถานการณ์แบบนี้ทำให้คนเราเริ่มไม่แน่ใจในการตัดสินใจของตนเอง เพราะหลังจากที่ซื้อบ้านไปแล้ว ภาระการผ่อนบ้านที่ยาวนาน ทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกว่าตัวเองสูญเสียโอกาสในการลงทุนหรือทำธุรกิจในด้านอื่นๆ ไปโดยปริยาย เพราะภาระการผ่อนชำระบีบรัดจนทำให้คุณเหลือเงินเพียงแค่ใช้ในชีวิตประจำวัน เงินที่จะใช้ในการลงทุนหรือธุรกิจอื่นไม่ต้องพูดถึง
หากคุณคิดเช่นนี้ ถือว่าคุณคิดผิด เพราะในความเป็นจริงแล้ว คุณไม่ได้เสียโอกาสในการลงทุนเลย เพราะการซื้อบ้านหากมองอีกมุมมองหนึ่ง
เท่ากับว่าคุณได้ลงทุนไปแล้วโดยไม่รู้ตัว ลองพิจารณาดูดีๆ เงินที่ผ่อนส่งบ้านของคุณไม่ได้หายไปไหน แต่การผ่อนส่งนั้นเป็นการลงทุนทีละน้อย วันใดที่คุณขายมันออกไป เงินจำนวนดังกล่าวจะกลับมาเป็นเงินก้อน พร้อมกับผลตอบแทนด้านอื่นๆ ที่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งคุณวางแผนการลงทุนมาเป็นอย่างดี โดยใช้ความรู้และทักษะในการจัดการทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์มาประกอบ จะทำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่น่าลงทุนเป็นอย่างมาก หากเทียบคุณสมบัติกับการลงทุนประเภทอื่นแล้ว มีความโดดเด่นอย่างชัดเจนในหลายๆเรื่อง โดยแยกประเด็นพิจารณาดังนี้

1. บ้านและที่ดินเป็นทรัพย์สินที่มีความต้องการสูงและมีอยู่จำกัด

บ้านและที่ดินถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ทุกคนและทุกครอบครัวต้องการมีไว้ครอบครอง ส่งผลทำให้ความต้องการมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆตามการเพิ่มขึ้นของประชากร จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาบ้านพร้อมที่ดินในระยะยาวมักมีแนวโน้มสูงขึ้นด้านเดียวโดยตลอดและมีความเสถียรภาพ หากเกิดภาวะราคาลดต่ำลงก็จะเกิดในระยะสั้นเท่านั้น ถ้าถือครองไว้เป็นระยะเวลานาน มักไม่ขาดทุน ถือเป็นคุณสมบัติเด่นที่ทำให้การถือครองบ้านและที่ดินเป็นกลยุทธ์ทางการเงินเพื่อใช้ต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ การที่คุณนำเงินสดเปลี่ยนมาถือบ้านพร้อมที่ดินแทน เป็นวิธีเดียวที่คุ้มครองไม่ให้ค่าเงินต่ำลง เพราะเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ ราคาบ้านและที่ดินจะถีบตัวสูงขึ้นกว่าราคาสินค้าประเภทอื่นนั้นเอง

2. การลงทุนซื้อบ้าน สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายและดอกเบี้ยต่ำ

แม้ราคาบ้านและที่ดินจะมีราคาสูง แต่คุณสามารถขอสินเชื่อหรือเงินกู้ต่อสถาบันการเงินไม่ยากเช่นกัน โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดสินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ มีสภาพคล่องตัวสูง การซื้อขายบ้านพร้อมที่ดินก็จะมากขึ้นเป็นเงาตามตัว หากเปรียบเทียบกับการลงทุนแบบอื่นๆ การกู้ยืมเงินมาลงทุนเป็นไปได้ยาก มักไม่มีแหล่งเงินกู้ระยะยาวมาสนับสนุน เงื่อนไขที่คุณกู้ยืมเงินมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นี้เอง เป็นสิ่งจูงใจมากกว่าลงทุนประเภทอื่น

3. พร้อมทำประโยชน์และมีช่องทางหาผลตอบแทนหลายด้าน

คุณสามารถนำบ้านพร้อมที่ดินมาใช้ประโยชน์ได้หลายช่องทาง เช่นใช้เป็นที่อยู่อาศัย ใช้ทำการค้า นำมาปล่อยให้เช่า ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้เกิดรายได้คล้ายๆกับดอกเบี้ย หรือเงินปันผล นอกจากนั้นคุณยังซื้อเพื่อเก็งกำไรได้อีกด้วย
ที่กล่าวมาข้างต้น คงทำให้ท่านเริ่มสนใจที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่มากก็น้อย ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่เหมาะแก่การลงทุนในบ้านและที่ดินอย่างยิ่ง เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้านเรากำลังฟื้นตัว มาถึงจุดนี้หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าการลงทุนในบ้านและที่ดินมีเทคนิคและกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างไรบ้าง ความจริงแล้วการลงทุนในบ้านพร้อมที่ดินมีเทคนิคและกลยุทธ์มากมาย ขึ้นอยู่กับเทคนิคเฉพาะตัวของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้วที่นักลงทุนนิยมทำกัน คือ
  1. ซื้อที่ดินเปล่า ถือไว้เพื่อหวังขายทำกำไรในอนาคต
  2. ซื้อที่ดินมาสร้างอพาร์ตเมนต์หรือบ้านเช่า
  3. การซื้อบ้านแล้วนำมาแสวงหาผลประโยชน์และผลตอบแทนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  4. ซื้อที่ดินเปล่า แล้วนำมาพัฒนาเป็นธุรกิจบ้านจัดสรร สร้างบ้าน อาคารพาณิชย์ หรือทำศูนย์การค้า
  5. ลงทุนทางอ้อมผ่านการซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ในต่างประเทศรู้จักในนาม Real Estate Investment Trusts หรือ REITS
  6. ลงทุนทางอ้อมผ่านการซื้อหุ้นของบริษัทที่ลงทุนในบ้านและที่ดินและอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ

ที่ยกตัวอย่างข้างต้น มีเหมาะสมกับผู้ลงทุนแตกต่างกัน หากคุณคิดว่าตัวเองมีความรู้ดีพอก็ควรลงทุนในสี่ทางเลือกแรก ส่วนรูปแบบที่ 5 และ 6 คงเหมาะสมกับคนที่ขาดความรู้ขาดประสบการณ์  แต่ใช่ว่าคุณจะทำไม่ได้ การหาความรู้เพิ่มเติมไม่ใช่เรื่องยาก ใครๆก็สามารถทำได้ อย่างที่บอกการลงทุนในที่ดินเป็นทางเลือกที่ทำได้ง่ายและทำความเข้าใจได้ไม่ยาก
มีประเด็นหนึ่ง ที่คุณต้องตระหนักไว้เสมอก่อนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คือ บ้านและที่ดินมีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ต่ำ (llliquid Markets) กล่าวคือ หากคุณลงทุนในบ้านพร้อมที่ดินไปแล้ว เวลาคิดจะขายหรือคิดจะปล่อยเช่ามักทำไม่ได้ในทันทีเหมือนกับการซื้อขายหุ้น ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาและเทคนิคการขายบ้านและที่ดินพอสมควร ดังนั้นก่อนที่คุณจะลงทุนในบ้านพร้อมที่ดิน เงินที่คุณนำมาลงทุนนี้จะต้องเป็นเงินเย็นไม่ใช่เงินร้อน ถ้าคุณนำเงินร้อนมาลงทุนอาจเป็นทางนำพาสู่ความหายนะก็เป็นได้
อ่านเพิ่มเติมได่ที่>>www.landinvestingthai.com

5 เคล็ดลับการซื้อบ้านและที่ดินราคาถูก

หากคุณลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การซื้อบ้านและที่ดินราคาถูกถือเป็นเรื่องที่คุณต้องให้ความสำคัญกับมันและคุณต้องหาให้เจอ เพราะบ้านและที่ดินเป็นสินทรัพย์ที่มีลักษณะพิเศษ คือ บ้านแต่ละหลัง ที่ดินแต่ละแห่ง และทำเลที่ตั้ง มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน  จึงทำให้ราคาบ้านและที่ดินแต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน คุณไม่สามารถใช้กลไกตลาดมากำหนดราคาหรือนำมาเป็นราคามาตรฐานในการตั้งราคาบ้านได้เสมอ
การเลือกซื้อบ้านเดี่ยวด้วยลักษณะนี้เอง คุณจึงมีโอกาสทำกำไรได้ตั้งแต่ตอนซื้อ ยิ่งคุณซื้อบ้านในราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาดเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้คุณทำกำไรได้มากขึ้นเท่านั้น การทำกำไรตั้งแต่ตอนซื้อนี้ถือเป็นเรื่องที่เกิดได้เฉพาะกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้กับการลงทุนอื่น เช่น การลงทุนในหุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ หรือทองคำ เป็นต้น เพราะการลงทุนเหล่านี้มีลักษณะแบบเดียวกัน มีตลาดและราคาตลาดกำหนดไว้ตายตัว ทำให้การลงทุนลักษณะนี้ต้องซื้อตามราคาตลาดเท่านั้น
การที่คุณเลือกซื้อบ้านให้ได้ในราคาถูก ต้องอาศัยทักษะ ความรู้ ความอดทนเข้าช่วย จะถือโชคลาภวาสนาอย่างเดียวก็คงไม่ใช่ ซึ่งมีเคล็ดลับดังต่อไปนี้
1.เลือกซื้อบ้านมือสอง
ควรหลีกเลี่ยงการซื้อบ้านใหม่ เพราะคุณต้องซื้อบ้านตามราคาท้องตลาด การซื้อบ้านมือสองคุณซื้อขายที่ดินราคาถูกสามารถต่อรองราคากับผู้ขายได้ ทำให้คุณมีโอกาสได้บ้านมาในราคาถูก และคนแต่ละคนมองค่าความสึกหรอไม่เท่ากัน หากคุณนำช่างมาประเมินราคาค่าซ่อมแซมและค่าตกแต่งไว้ก่อน จะช่วยให้คุณสามารถต่อรองราคาบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.ซื้อบ้านในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี
คนส่วนใหญ่มักชอบซื้อบ้านตอนเศรษฐกิจดีและขายบ้านตอนเศรษฐกิจไม่ดี ช่วงเศรษฐกิจดีควรเป็นช่วงที่ขายบ้านเพื่อทำกำไร แต่การซื้อบ้านช่วงเศรษฐกิจไม่ดีเป็นช่วงที่ตลาดเป็นของผู้ซื้อ คุณมีอำนาจต่อรองราคากับผู้ขายสูงกว่าช่วงอื่นๆ ทำให้มีโอกาสซื้อบ้านมาในราคาถูก
3.เลือกซื้อบ้านจากเจ้าของที่ร้อนเงิน หรือมีความจำเป็นเร่งด่วน
การที่คุณเลือกซื้อบ้านกับคนประเภทที่มีปัญหาทางการเงิน หรือคนที่ต้องย้ายถิ่นฐาน หรือที่ทำงานอย่างเร่งด่วน เจ้าของบ้านประเภทนี้มีความจำเป็นที่ต้องขายบ้านอย่างเร่งด่วน ทำให้คุณสามารถต่อรองราคาได้มาก มีโอกาสช่วยให้คุณซื้อบ้านและที่ดินราคาถูกได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วย
4.รู้จักเป็นนายทุนรับซื้อฝากที่ดิน
ถือเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่เก่าแก่และใช้ได้ผลดีมาก เป็นการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ที่นำบ้านมาขายฝาก ซึ่งโดยปกติแล้วราคารับซื้อฝากบ้านพร้อมที่ดินจะมีราคาต่ำกว่าราคาซื้อขายบ้านทั่วไปตามท้องตลาด จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้คุณได้บ้านราคาถูกได้ หากผู้ขายฝากไม่นำเงินมาไถ่ขายฝากตามระยะเวลาที่กำหนด
5.ต่อรองราคาต้องใจแข็งและอดทน
บ้านที่ดินราคาถูกการที่คุณต่อรองราคากับผู้ขาย คุณต้องเจรจาต่อรองอย่างมั่นคงและยึดมั่นกับราคาที่วางแผนไว้ก่อนซื้อเสมอ ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด การต่อรองราคาต้องเป็นไปในลักษณะหากไม่ได้ราคาตามที่คุณต้องการก็ไม่สนใจ หรือถ้าต่อรองแล้วไม่ได้จริงๆก็ให้ทิ้งเบอร์ติดต่อ หรือนามบัตรไว้เผื่อผู้ขายเปลี่ยนใจในอนาคต
การทำกำไรตั้งแต่ตอนซื้อโดยซื้อบ้านและที่ดินราคาถูกเป็นการการันตีให้คุณมั่นใจได้เลยว่าคุณมีกำไรแน่นอนในอนาคตหากคุณขายมันออกไป และยังเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้บ้านและที่ดินที่คุณลงทุนไปนั้นเกิดสภาพคล่อง หรือซื้อง่ายขายคล่องเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยลดความอึดอัดในการถือครองอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากของคุณได้เป็นอย่างดี

ค้นหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะสำหรับคุณ

หากคุณเป็นคนที่สนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่รู้ว่าควรลงทุนในบ้านประเภทไหนดีที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการลงทุนสูงสุด เนื่องจากตลาดบ้านและที่ดินมีมากมายหลายประเภท เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถว คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ ที่ดินเปล่า ฯลฯ
ที่จริงแล้วแม้บ้านจะมีหลายประเภท แต่บ้านแต่ละประเภทมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน  ดังนั้น การที่คุณลงทุนในบ้านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เงื่อนไข ความชอบส่วนตัวและเป้าหมายในการลงทุนเป็นสำคัญ เพราะการลงทุนอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภทมีความเหมาะสมในการลงทุนในสภาพการณ์ที่ไม่เหมือนกัน ดังต่อไปนี้

ทาวน์เฮ้าส์

ซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ การลงทุนในทาวน์เฮ้าส์ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกทางหนึ่ง เพราะทำเลมักอยู่ในบริเวณย่านใจกลางเมือง แต่การลงทุนในทาวน์เฮ้าส์นี้ มักจะเจอปัญหาเรื่องของการอยู่อาศัยร่วมกับเพื่อบ้าน เนื่องจากความแออัด และบ้านมีขนาดเล็ก รวมทั้งกำแพงและรั้วบ้านล้วนถูกขนาบจากเพื่อนบ้านทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ด้านหน้าและด้านหลัง ดังนั้น หากคุณไม่อยากเจอชุมชนที่ไม่ดี การพิจารณาซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ คุณต้องให้ความสำคัญกับเพื่อนบ้านด้วย ว่าเป็นใคร มีนิสัยอย่างไร โดยการสำรวจสอบถามเอาจากผู้อยู่อาศัยบริเวณนั้นๆ
รูปแบบการลงทุนในทาวน์เฮ้าส์ที่นิยมทำกันคือ ซื้อทาวน์เฮ้าส์มาปล่อยเช่า หรือมาทำออฟฟิศ ซึ่งทาวน์เฮ้าส์ในตัวเมืองจะเหมาะมากหากใช้ทำสำนักงานธุรกิจ ซึ่งเป็นลู่ทางที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและดีที่สุด

ตึกแถว

ตึกแถวมือสองหากคุณคิดจะซื้อบ้านในเมืองหรือย่านที่มีเจริญแล้ว ตึกแถวมือสองเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม แต่ตึกแถวส่วนใหญ่มักมีข้อด้อยประการหนึ่งตรงที่ไม่มีที่จอดรถ จึงทำให้ไม่สะดวกในการอยู่อาศัยและใช้ทำธุรกิจ คนสวนใหญ่จึงสนใจเฉพาะตึกแถวที่คนเดินผ่านพลุกพล่าน หรือตรงป้ายรถเมล์
จุดด้อยอีกประการหนึ่งของตึกแถว คือ การกู้ยืมเงินลงทุนในตึกแถวมักมีเงื่อนไขข้อจำกัดมากกว่าบ้านชนิดอื่น เนื่องจากสถาบันการเงินมองว่าเป็นการกู้ยืมเงินเพื่อทำธุรกิจการค้า ดังนั้น คุณต้องพยายามเจรจากู้ยืมเงินบนเงื่อนไขสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้ได้ มีผลทำให้คุณกู้ได้วงเงินสูง ระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น และดอกเบี้ยต่ำ
หากคุณคิดจะลงทุนในตึกแถว คุณควรมองหาตึกแถวที่สามารถจอดรถบริเวณถนนด้านหน้าได้ หรือสามารถจอดรถในบริเวณใกล้เคียงได้ ซึ่งรูปแบบการลงทุนในตึกแถวนี้ ส่วนใหญ่ที่นิยมทำกันคือ ชั้นล่างปล่อยเช่าสำหรับทำการค้า ส่วนชั้นบนจะกั้นซอยเป็นห้องให้คนเช่า เป็นต้น

บ้านเดี่ยว

ซื้อขายบ้านเดี่ยว จัดเป็นบ้านที่เหมาะสมกับการลงทุนมากสุด เพราะน่าอยู่อาศัยมากที่สุด กล่าวคือ มีพื้นที่ว่างใช้สอย พักผ่อนหย่อนใจมากกว่าบ้านประเภทอื่น มีความเป็นส่วนตัว และมีรูปแบบการอยู่อาศัยที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเพื่อนบ้านมากนัก ประกอบกับบ้านเดี่ยวมีที่ดินค่อนข้างมาก ถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้มูลค่าบ้านและที่ดินสูงขึ้นเมื่อถือครองในระยะเวลานาน เนื่องจากราคาที่ดินจะสูงขึ้นตามความเจริญของทำเลที่ตั้งมากกว่าบ้านประเภทอื่น ดังนั้น การเลือกซื้อบ้านเดี่ยวเพื่อการลงทุน หากมีบ้านเดี่ยวให้เลือกหลายหลังโดยมีลักษณะบ้านและราคาใกล้เคียงกัน  ให้คุณเลือกบ้านที่มีเนื้อที่ดินมากกว่าเสมอ เพราะระยะยาวแล้ว จะทำให้คุณมีโอกาสได้ประโยชน์จากการเพิ่มมูลค่าที่ดินได้มากกว่า
แต่มีประเด็นหนึ่งที่คุณต้องพิจารณาร่วมด้วยหากลงทุนซื้อขายบ้านเดี่ยว คือ ทำเลที่ตั้งมักอยู่ห่างจากตัวเมืองออกไป ดังนั้น คุณควรเลือกทำเลที่ตั้งเป็นสำคัญ สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก และใช้ระยะเวลาไม่นาน นอกจากนั้นต้องพิจารณาด้วยว่าบริเวณนั้นมีตลาดหรือแหล่งชุมชนที่สะดวกต่อการจับจ่ายใช้สอยด้วยหรือไม่
คอนโดมิเนียม
เลือกซื้อคอนโดเพื่อการลงทุนคุณอาจตั้งคำถามว่าคอนโดน่าลงทุนไหม? เพราะปัจจุบันคนนิยมซื้อคอนโดเพื่อการลงทุนกันมาก อาจกล่าวได้ว่าการลงทุนคอนโดมีลักษณะทางกายภาพที่เหมาะสำหรับการลงทุนน้อยที่สุด เพราะเป็นบ้านที่มีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นสิ่งปลูกสร้าง ส่วนเนื้อที่ที่ดินที่ถือครองเป็นไปในลักษณะถือกรรมสิทธิ์ร่วม เมื่อเฉลี่ยออกมาแล้วถือว่ามีสัดส่วนน้อยมาก ทำให้ระยะยาว มูลค่าเพิ่มมีความโน้มเอียงค่อนข้างน้อย
ห้องชุดยังเป็นบ้านที่มีเงื่อนไขข้อจำกัดมากที่สุดในบรรดาบ้านทุกประเภท เพราะต้องขึ้นอยู่กับเพื่อนบ้านที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมทั้งหมด ดังนั้นปัญหาการอยู่อาศัยจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายและบ่อยกว่า
จุดอ่อนที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูงมาก เมื่อเทียบกับบ้านประเภทอื่นๆ เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์สินส่วนกลาง และยังมีข้อจำกัดในเรื่องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงห้องชุด ซึ่งทำให้ขาดความยืดหยุ่นในการใช้ประโยชน์
หากคุณจะลงทุนในคอนโด คุณต้องเลือกคอนโดที่ตั้งอยู่แถวโครงการรถไฟฟ้า เนื่องจากกระแสความต้องการของคนยุคใหม่และคนต่างชาติมีสูง และเป็นทำเลที่บ้านประเภทอื่นเข้ามาแข่งขันไม่ได้ เพราะแถวนั้นทำบ้านแล้วไม่คุ้ม หากคุณเลือกคอนโดเพื่อการลงทุนเหล่านี้มาปล่อยเช่าถือเป็นการเลือกลงทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ส่วนคอนโดมิเนียมในทำเลอื่นๆ เมื่อพิจารณาถึงผลตอบแทนแล้ว มักออกมาค่อนข้างต่ำ ไม่น่าจูงใจ จึงไม่เหมาะกับการลงทุนเท่าไหร่
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่สำคัญในการพิจารณาในการเลือกซื้อคอนโดเพื่อการลงทุนคือ วิวทิวทัศน์ ทำเลที่ตั้ง วัสดุก่อสร้างและของตกแต่งที่ใช้ สิ่งอำนวยความสะดวก ราคาต่อตารางเมตร ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง และความน่าเชื่อถือของผู้ดำเนินโครงการ
อพาร์ตเมนต์
ลงทุนในอพาร์ตเมนต์การลงทุนในอพาร์ตเมนต์ถือเป็นการลงทุนที่มีผู้ให้สนใจอย่างกว้างขวาง ปกติแล้วการลงทุนในประเภทนี้จะสำเร็จมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัยดังต่อไปนี้
1. ต้องตั้งอยู่ในแหล่งชุมชน ไม่เปลี่ยว มีความสะดวกสบายในการเดินทาง จะเป็นตัวช่วยให้อพาร์ตเมนต์นั้นๆมีความต้องการสูง ห้องว่างมีน้อย
2. ขึ้นอยู่กับค่าเช่าว่ามีค่าเช่าสูงหรือต่ำเพียงใด
3. ขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการว่ามีมากน้อยเพียงใด
4. ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ คือทำให้อพาร์ตเมนต์มีความเรียบร้อยน่าอยู่ และการควบคุมไม่ให้ต้นทุนสงเกินไป
การลงทุนในอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่อย่างไหนดีกว่ากัน
หากคุณคิดจะลงทุนในอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็ก การจ้างคนอื่นมาดำเนินการในหน้าที่ต่างๆ จะไม่คุ้ม ดังนั้นคุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะมาดำเนินการด้วยตนเอง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่คุณไม่สามารถจัดหาให้กับผู้อยู่อาศัยได้เพราะไม่คุ้มกับการลงทุน ปัญหาเหล่านี้ คุณต้องคิดให้ดีก่อนการลงทุน
ถ้าเป็นกรณีอพาร์ตเมนต์ขนาดใหญ่ที่มีห้องจำนวนมาก คุณสามารถจ้างคนมาดูแลรับผิดชอบและลงทุนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้ จะยืดหยุ่นกว่าอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็ก คุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่า ช่วยให้เป็นที่สนใจกับผู้เช่ามากขึ้น ลดภาระการทำงานของคุณ และคุณมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น
ส่วนทำเลที่น่าสนใจมากสำหรับการลงทุนอพาร์ตเมนต์ คือ พื้นที่บริเวณสถานศึกษา หรือแหล่งที่ทำงานซึ่งมีคนจำนวนมากต้องใช้ชีวิตอยู่เป็นประจำ ส่วนหลักการพิจารณาว่าจะลงทุนในอพาร์ตเมนต์ย่านไหนดี คุณต้องประมาณการหารายได้สุทธิจากการดำเนินงานก่อนเสมอ เพื่อมาประเมินความคุ้มหรือไม่คุ้ม
สุดท้ายนี้ หวังว่าคุณคงได้รับประโยชน์จากแนวทางในการเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภทไม่มากก็น้อย ถ้าคุณพบเจอบ้านหลังเหมาะๆที่ตรงกับแนวทางการลงทุนของคุณแล้ว จงอย่าปล่อยให้มันหลุดลอยไปเสียเลย รีบเข้าไปลงทุนและคุณจะรู้ว่าผลตอบแทนจากบ้านนั้นมันช่างคุ้มค่าเสียจริงๆ

ลงทุนยุคที่ดินแพง ต้องคอนโดมือสอง

ตั้งแต่หลังวิกฤตการเมืองคลี่คลายในช่วงกลางปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าดีลซื้อขายที่ดินใจกลางกรุงเทพฯ ติดรถไฟฟ้ากลับมาร้อนแรงอีกครั้งสะท้อนได้จากที่ดิน 3 แปลง ที่มีการซื้อขายจริง ได้แก่ ที่ดินติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีนานา ริมถนนสุขุมวิท ซอย 6 ที่กลุ่มควอลิตี้ เฮ้าส์ ซื้อในราคา 1.8 ล้านบาท/ตารางวา (ตร.ว.)
ที่ดินแปลงย่านสุขุมวิท 36 ที่กลุ่มเฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ ซื้อในราคาแตะ 1.3 ล้านบาท/ตร.ว. และที่ดินย่านศาลาแดงใกล้อาคารอื้อจื่อเหลียง ที่กลุ่มเอสซี แอสเสท ซื้อในราคา 1.5 ล้านบาท/ตร.ว. ซึ่งราคาซื้อขายที่ดินทั้ง 3 แปลง ถือว่าสูงกว่าราคาที่เคยเสนอขายกันในย่านนั้นๆ ในปีที่แล้วเกือบ 20%
ราคาที่ดินที่ขยับขึ้นแรงมากและเร็วมากมีผลให้ราคา ขายคอนโดมิเนียมมือหนึ่งใจกลางเมืองปรับขึ้นสูงด้วยเช่นกัน โดยจากการสำรวจของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่า คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง เช่น เพลินจิต ชิดลม ราชดำริ ที่เป็นโครงการเปิดขายใหม่เสนอขายสูงสุดแตะ 3.4 แสนบาท/ตร.ม
การขยับขึ้นของราคาดังกล่าวส่งผลให้ราคาขายคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ปีนี้มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 9.4 หมื่นบาท/ตร.ม. เพิ่มขึ้น 7% จากปลายปี 2556 ที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 8.8 หมื่นบาท/ตร.ม. และมีแนวโน้มจะปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง จากข้อจำกัดในด้านที่ดินที่มีน้อย ทำให้ผู้ประกอบการแข่งขันกันซื้อที่ดิน ราคาที่ดินสูงขึ้น
ความคิดเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับ อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย ที่กล่าวว่า ต้นทุนที่ดินใจกลางเมือง ได้แก่ ย่านสุขุมวิท (ไม่เกินเอกมัย) ย่านลุมพินี และย่านสาทร (ไม่เกินถนนนราธิวาสราชนครินทร์) ในเวลานี้ จะทำให้คอนโดมิเนียมใหม่ที่จะเปิดตัวนับจากนี้จะมีราคาเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท/ตร.ม. จากปัจจุบันราคาขายเริ่มต้นเฉลี่ย 1.8-2 แสนบาท/ตร.ม.
หากประเมินการเปลี่ยนแปลงของราคาคอนโดมิเนียมใจกลาง เมืองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ปี 2556 ปรับขึ้นจากปี 2555 สูงถึง 20% เช่นเดียวกับปี 2557 ที่ปรับขึ้นจากปี 2556 สูงถึง 20% จากก่อนหน้านั้น เฉลี่ยจะปรับขึ้นเพียงปีละ 10% เท่านั้น ดังนั้น จะเห็นว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ราคาขายเริ่มต้นกระโดดแรงตามราคาที่ดิน
“สิ่งหนึ่งที่เป็นดัชนีสะท้อนการเปลี่ยนแปลงด้าน ราคาขายอย่างมีนัยสำคัญนั่นคือ ฐานข้อมูลราคามาตรฐานคอนโดมิเนียมที่ซีบีฯ แบ่งตามประเภทคอนโดมิเนียมต้องปรับใหม่ติดต่อกันมา 2 ปีแล้ว จากฐานข้อมูลราคามาตรฐานก่อนปี 2556 ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยมาเกือบ 10 ปี” อลิวัสสา กล่าว

คอนโดมือสอง

วิเคราะห์การลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า

จากข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนที่ดินที่มีผลต่อราคาขายคอนโดมิเนียมใหม่ดังกล่าว ในมุมการซื้อคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองเพื่อลงทุนในลักษณะเช่า แนะนำให้หาคอนโดมิเนียมมือสองจะมีความคุ้มค่ามากกว่า เพราะการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินและราคาขายคอนโดมิเนียมที่เร็วและแรง แต่อัตราค่าเช่าคอนโดมิเนียม แม้จะอยู่ใจกลางเมืองก็ไม่ได้ปรับขึ้นแรงและเร็วได้เท่ากับต้นทุนที่ดินและ ราคาขายคอนโดมิเนียมใหม่
ดังนั้น หากอัตราค่าเช่ายังใกล้เคียงเดิม แต่ต้นทุนในการซื้อห้องชุดสูงเกินไป หรือเรียกว่าเป็นราคาอนาคตมากเกินไปจะได้อัตราผลตอบแทน (Yield) ไม่คุ้มเลย
สำหรับ รูปแบบห้องชุดขึ้นอยู่กับงบประมาณในการลงทุน เพราะตลาดใจกลางเมืองผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน และห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน แต่หากมีกำลังซื้อที่สามารถซื้อห้องชุด 2 ห้องนอนได้ แนะนำให้เลือกลงทุนห้องชุดแบบ 2 ห้องนอนมือสอง เพราะจำนวนอุปทานในตลาดมีน้อย คู่แข่งในการปล่อยเช่าจะน้อยกว่าห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน และปัจจุบันเริ่มมีความต้องการมากขึ้น

วิเคราะห์การลงทุน ซื้อเพื่อรอขายในอนาคต

กรณีที่ซื้อเพื่อรอขายในอนาคตยังสามารถซื้อคอนโดมิเนียมมือหนึ่งได้ แต่ต้องเป็นการลงทุนระยะกลางคือ ถือจนตึกใกล้สร้างเสร็จ (คอนโดมิเนียมใจกลางเมืองส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี) จะได้กำไรที่ดีกว่าปล่อยขายตอนที่ตึกอยู่ระหว่างก่อสร้างและลงทุนระยะ ยาวอย่างน้อย 5 ปี แล้วค่อยปล่อยขายจะได้ราคาที่ดีมากเช่นกัน
สำหรับใครหลายคนที่สนใจลงทุนระยะสั้นในลักษณะขายใบจอง หลังจากเห็นว่าโครงการทำเลดีในช่วงนี้ แม้ราคาจะสูงมาก แต่กลับขายหมดเร็วนั้นต้องวิเคราะห์ให้ดี เพราะราคาขายคอนโดมิเนียมแบรนด์ดังที่ขายหมดเร็ว ล้วนเปิดขายในราคาอนาคตมากๆ จะทำกำไรในวันนี้ได้ยาก จึงไม่ใช่โอกาสทองของการลงทุนระยะสั้น
ส่วนผู้สนใจลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมมือสอง ทำเลใจกลางเมืองเพื่อปล่อยขายในอนาคต ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากเช่นกัน เพราะต้นทุนที่ไม่สูงมาก ทำให้มีโอกาสทำกำไรสูง
ข้อควรระวังในการลงทุนคอนโดมือสอง
  • สภาพตัวอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน ควรเลือกที่ยังอยู่ในสภาพที่ดี
  • ทำเลดี ไม่ใช่คำตอบเสมอไป ต้องดูภาพรวมคุณภาพของโครงการนั้นๆ ห้องชุดนั้นๆ ตำแหน่งของห้องชุดนั้นๆด้วย เพราะหากคุณภาพตัวอาคารทรุดโทรมต่อให้อยู่ในทำเลที่ดีก็ราคาตกได้
  • ควรศึกษาเรื่องการบริหารจัดการอาคารของคอนโดมือสองนั้นๆ มีคุณภาพเป็นอย่างไร เพราะหากมีผู้ดูแลอาคารที่ดี อาคารนั้นๆ ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
  • ควรศึกษาเรื่องเงินส่วนกลางของโครงการนั้นๆ ก่อนตัดสินใจเลือกลงทุน มีปัญหาในการจัดเก็บหรือไม่ เจ้าของร่วมจ่ายสม่ำเสมอหรือไม่ มีปัญหาหนี้สินของนิติบุคคลอาคารชุดหรือไม่ ห้องชุดที่สนใจจะซื้อลงทุนค้างค่าส่วนกลางหรือไม่ ฯลฯ
 ที่มา หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
วันที่ 03 พฤศจิกายน 2557

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

7 เทคนิคขายบ้านและที่ดินให้ทันใจและได้ราคา


 ปัญหาที่สำคัญในการขายบ้านและที่ดินที่คุณคงหนีไม่พ้น คือ ปัญหาเรื่องการขาดสภาพคล่อง เนื่องจากการขายบ้านแต่ละครั้งทำได้ยาก ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก บางคนบอกขายเป็นปีๆก็ยังขายไม่ได้ ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่คุณรู้ไหมว่า ความเป็นจริงแล้วปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเสมอตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน แต่มันแสดงถึงความบกพร่องของตัวคุณเอง โดยเฉพาะในประเด็นการขาดเทคนิคและวิธีการขายที่เหมาะสมนั้นเอง
การขายบ้านและที่ดินอย่างรวดเร็วและได้ราคาถือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่สามารถเรียนรู้และฝึกปฏิบัติกันได้ เพียงแค่คุณต้องมีความเข้าใจและระมัดระวังในการดำเนินการ ไม่เพียงแค่คุณจะขายบ้านได้อย่างรวดเร็วเท่านั้นแต่คุณสามารถขายได้ราคาที่น่าพอใจอีกด้วย
หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการขายบ้าน เทคนิคที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ถือเป็นเคล็ดลับที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถปฏิบัติได้จริง ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน โดยมีลำดับขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ตกแต่งและซ่อมแซมบ้านให้ดูใหม่
เป็นขั้นตอนลำดับแรกที่คุณต้องทำก่อนประกาศขายบ้าน เป็นการปรับปรุง ตกแต่งภาพลักษณ์ของบ้านให้มีความน่าสนใจและดึงดูดใจมากขึ้น ไม่ว่าใครก็ตามล้วนชอบบ้านที่ดูใหม่ ดูสวย มีชีวิตชีวา ดังนั้น หากคุณสามารถทำให้บ้านตอบสนองความชื่นชอบของคนทั่วไปได้ โอกาสขายก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่เจ้าของบ้านส่วนใหญ่จะลังเลที่จะต้องเสียเวลา และเงินทองในการซ่อมแซม ทาสี และทำความสะอาดบ้าน ถือเป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงต่อเจ้าของบ้าน จึงทำให้โอกาสขายบ้านลดลงตั้งแต่เริ่มต้นบอกขายแล้ว ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์คุณอย่ามองข้ามปัญหาเล็กๆน้อยๆเป็นอันขาด อาทิ ปัญหารอยรั่วของก๊อกน้ำ ปูนฉาบผนังที่แตกร้าว ประตูบ้านที่ส่งเสียงดัง สีที่กะเทาะ คราบสกปรกในบ้าน และคราบน้ำมันในครัว เป็นต้น คุณต้องเปลี่ยนความคิด และให้ความสำคัญกับจุดเล็กน้อยเหล่านี้ คุณจะพบว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ท่านขายบ้านได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ

2. ประเมินราคาที่ดินเพื่อประกอบการตั้งราคา
เมื่อคุณได้ดำเนินการปรับปรุงบ้านให้เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้พบเห็นแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือคุณต้องกำหนดราคาขายบ้านและที่ดินให้เหมาะสม แม้บ้านของคุณจะมีคุณสมบัติเด่นยังไงก็ตาม แต่การจะขายบ้านได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับราคาบ้านเป็นสำคัญ ถ้ากำหนดราคาขายไว้ต่ำเกินไป แม้จะขายบ้านได้เร็วแต่ทำให้คุณสูญเสียรายได้ส่วนหนึ่งที่พึงได้รับ แต่หากกำหนดราคาขายไว้สูงเกินไป ก็จะทำให้บ้านขายไม่ออกซักที ดังนั้น การตั้งราคาขายที่เหมาะสม คือ การตั้งราคาขายให้สอดคล้องกับราคาตลาดที่แท้จริง โดยอาศัยการสอบถามราคาซื้อขายบริเวณใกล้เคียงหรือจ้างผู้ประเมินราคามืออาชีพที่มีความน่าเชื่อถือมาช่วยประเมินราคาที่ดินเพื่อนำมาใช้ตั้งราคาขายที่เหมาะสมต่อไป
3. อำนวยความสะดวกในการหาแหล่งเงินทุนให้แก่ผู้ซื้อ
การขายบ้านแตกต่างจากการขายสินค้าชนิดอื่น นอกจากราคาและตัวสินค้าแล้ว การขายบ้านส่วนใหญ่ต้องมีสถาบันการเงินมาช่วยสนับสนุนเงินทุนแก่ผู้ซื้อด้วย ดังนั้น เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องอำนวยความสะดวก อาศัยการติดต่อ เจราจา ต่อรองเงื่อนไขกับสถาบันการเงินหลายๆแห่ง ถือเป็นกลยุทธ์การขยายโอกาสการขายบ้านของคุณให้มากขึ้น เงื่อนไขการกู้ยืมที่ดีที่สุดที่ช่วยให้การขายบ้านมีความคล่องตัวมาก คือ เงื่อนไขการขายบ้านแบบไม่มีเงินดาวน์ และกู้ยืมเงินได้นานถึง 30 ปี
ขอให้ท่านระลึกไว้เสมอว่า ผู้ซื้อบ้านน้อยมากที่เข้าใจในเรื่องการกู้ยืมเงินซื้อบ้านกับสถาบันการเงิน หากต้องการให้โอกาสขายบ้านมากขึ้น คุณต้องเข้าไปช่วยเหลือเรื่องเหล่านี้ และให้ความกระจ่างกับลูกค้าว่าควรกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินใดดี เงินดาวน์และเงินผ่อนชำระรายเดือนเท่าไหร่ อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ คุณสมบัติของผู้ขอกู้เป็นอย่างไร
4. เข้าพบนักกฎหมายเพื่อขอคำปรึกษาและคำแนะนำ
เนื่องจากจำนวนเงินที่ซื้อขายบ้านสูงมาก และขั้นตอนกว่าที่คุณจะได้เงินค่าขายบ้านนั้นล้วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายทั้งสิ้น ดังนั้น เพื่อช่วยให้การซื้อขายเป็นไปอย่างรัดกุม คุณต้องขอคำปรึกษาหรือคำแนะนำจากนักกฎหมายทุกครั้ง ซึ่งนักกฎหมายในที่นี้อาจเป็นคนรู้จักหรือความรู้ทางกฎหมายก็ได้
5. สัญญาซื้อขายบ้านเตรียมไว้ให้พร้อม
ทุกครั้งที่คุณวางแผนจะขายบ้านและที่ดิน คุณต้องจัดเตรียมสัญญาและใบเสร็จต่างๆ ที่จำเป็นไว้ให้พร้อม เมื่อไรก็ตามที่มีความจำเป็นต้องทำสัญญากัน จะได้ทำได้เลยไม่ต้องเสียเวลาในการจัดหาอีก
6. รู้จักกระตุ้นการขาย
เป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการลงโฆษณาขายบ้านในสื่อต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขายบ้านขึ้น ควรจับลูกค้ากลุ่มพนักงานใหม่และกำลังหาบ้านเป็นของตัวเอง การลงประกาศขายบ้านที่ดิน อย่างเช่น หนังสือพิมพ์รายวัน เว็บบอร์ด เว็บไซต์ประกาศขายที่ดิน หรือ Social Network ต่างๆ  มีทั้งฟรีและเสียเงิน แล้วแต่คุณจะเลือก เดี๋ยวนี้กระแส Social Network กำลังมาแรง หากรู้จักใช้มันจะทำให้งานของคุณง่ายขึ้นก็ได้
7. ปิดการขายให้เป็น
ในวันที่คุณนัดลูกค้ามาดูบ้าน เทคนิคการปิดการขายที่มีประสิทธิภาพอันหนึ่ง คือ คุณต้องจัดทำสรุปสาระสำคัญของบ้านที่ขายลงในกระดาษแผ่นเดียว แจกให้ลูกค้าที่มาดูบ้านทุกรายเพื่อเป็นการเน้นและตอกย้ำจุดน่าสนใจให้กับลูกค้า ขอให้คุณจำไว้เลยว่าช่วงบ่ายของวันอาทิตย์คือช่วงเวลาทองในการทำธุรกิจของคุณ และอย่ามัวเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขายบ้านเป็นอันขาด
โปรดระลึกเสมอว่าการที่คุณขายบ้านและที่ดินด้วยตนเอง นอกจากจะทำให้คุณได้รับเงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยไม่ต้องเสียเงินค่านายหน้าแล้ว ยังทำให้ท่านได้รับความภาคภูมิใจเป็นของแถมอีกต่างหาก ท้ายนี้ขอให้คุณโชคดีกับการขายบ้านของตัวเองนะครับ